จากการวิ่งดูงานทั่วประเทศมีกรณีศึกษา
ที่ผมค่อนข้างติดใจอยู่อีกประเด็น
ซึ่งเกิดกับร้านค้าหลายๆแห่ง ที่ต้องเอะใจ
กับยอดขายที่ไม่โตสักทีทั้ง ๆ ที่แบกค่าเช่าแพง
เพื่อแลกกับทำเลดีเพื่อหวังโกยลูกค้า
ธุรกิจนั้นอยู่ได้ด้วยกำไรเป็นอาหารหล่อเลี้ยง
กำไรนั้นมาจากรายรับมากกว่ารายจ่าย
รายรับนั้นมาจากยอดขายหรือรายได้จากงานบริการ
ยอดขายก็มาจาก ราคาขายคูณด้วยปริมาณ
เมื่อยอดขายไม่ถึงเป้าก็เดือดร้อนกันถ้วนหน้า
===================================
ร้านที่มีปัญหา ที่จะขอเล่าให้ฟังคือแบบนี้ครับ
ยอมเช่าที่แพง ทำเลดี จ่ายล่วงหน้าหลายปี
แต่ปัญหานั้นคือที่จอดรถสำหรับลูกค้ากลับไม่มี
ซึ่งความจริง คือ มีแต่ลูกค้าไม่สามารถจอดได้
ที่จอดรถข้างถนนหรือใต้อาคารก็ดี
กลับเป็นที่จอดของพนักงานทุกระดับ
เช่น รถของผู้จัดการสาขา,รองผู้จัดการ
ของหัวหน้าส่วนและแม้กระทั่งของพนักงานทั่วไป
ที่ไม่นิยมขับขี่มอเตอร์ไซค์
ใครมาเร็วกว่าก็จอดในที่ดีกว่า ไม่มีแสงแดดเผา
ใครมาช้าหรือคิดอะไรมาออกก็ทำการจอดตรง
หน้าร้านเลยเรียงกันเป็นแถวยาว
ลูกค้าที่มาซื้อของในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน
เช่น ก่อนเข้างาน,พักเที่ยงและหลังเลิกงานจะจอดที่ไหนได้ล่ะครับ
บางคนที่ผมประสบพบเจอ ได้ยินมากับหู ได้ดูมากับตา
ถึงขั้นโดนตำรวจจราจรล็อกล้อเพราะจอดในที่ห้ามจอด
หรือจอดซ้อนคัน เพียงแค่ต้องลงมาซื้อของ
ราคา 100 บาทแต่ต้องจ่ายค่าปรับไป 200 บาท
แบบนี้ลูกค้าเข็ดแน่ ๆ ครับ
ลองปรับแก้เรื่องที่จอดรถใหม่
ให้อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าเถอะ
ใครที่ไม่จำเป็นต้องขับรถมา
ใครที่ร่วมทางมากับแฟนได้
ใครที่ปั่นจักรยานหรือขับมอเตอร์ไซค์ได้
ลองตรองดูอีกที
หากต้องจอดรถให้ไกลจากบริเวณหน้าร้าน
อีกสักหน่อย
ยอมเดินไกลขึ้นเพื่อลูกค้าได้เดินใกล้
เมื่อลูกค้ารู้สึกได้รับความสะดวกสบายก็จะมาซื้อซ้ำอีก
เรื่อย ๆ วนไป และจะพาเพื่อน ๆ หรือคนรู้จักมาเพิ่มแน่นอนครับ