ขาดระบบจึงระบม ตอนที่ 2

ต่อจากเมื่อวานครับ

4. #ลดปัญหาของหาย
การเช็คสต๊อกจะทำให้รู้ว่าสินค้ายังอยู่ครบหรือไม่
ยิ่งเช็คถี่เท่าไหร่ โอกาสของการหายก็ดูจะน้อยลง
โดยอาจเลือกโฟกัสเฉพาะหมวดที่หายบ่อย ๆ
หรือสร้างความเสียหายหลายบาทก็ย่อมได้

การนำบาร์โค้ดเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ
จะช่วยให้การเตรียมเช็คสต๊อกสะดวกสบายมากขึ้น
เพราะเมื่อมีการขายของออกไป
ในระบบก็จะตัดสินค้าออก
ให้จำนวนคงเหลือมีการอัพเดทตลอดเวลา
ทีนี้ตกสิ้นวันก็เช็คสต๊อกได้
หรือจะทำการสุ่มเช็คแบบ “ช๊อต! ชาร์จ! ช้อค!”
ก็ตามสะดวกเลยครับ

5. #ช่วยกันงานเร็วขึ้น
ในแต่ละวันจะมีชั่วโมงเร่งด่วน กล่าวคือ ช่วงเวลาที่ลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาใช้บริการพร้อม ๆ กันอย่างมืดฟ้ามัวดิน เป็นที่ถูกใจของเจ้าของกิจการแน่นอน แต่ถ้ารับมือกับลูกค้าไม่ดี ผลกระทบที่ตามมาอาจทำให้เสียลูกค้าไปเลยก็ได้

หลายท่านคงเคยมีประสบการณ์เลวร้ายเช่นนี้ เมื่อเวลาจะเอาของไปคิดเงินที่แคชเชียร์ ต้องต่อคิวยาวเป็นหางว่าวงู เมื่อหมดความอดทนก็เอาของวางไว้แถวเคาน์เตอร์แล้วเดินออกไปซะเลย

ก็แหม … จะจ่ายเงินทั้งทีต้องยืนรอนานแสนนาน แบบนี้เปลี่ยนใจดีกว่า

ดังนั้นเมื่อใช้ระบบบาร์โค้ดเข้ามาช่วย จะทำให้งานของแคชเชียร์ไม่เป็นคอขวด เพราะมีผู้ช่วยขายมาใช้ปืนสแกนบาร์โค้ดและจัดสินค้าลงถุง หรือกล่องตามขนาดของสินค้า จากนั้นระบบก็จะส่งต่อไปที่แคชเชียร์เพื่อเรียกชำระเงินจากลูกค้า

ก็จะส่งต่อกันไปเหมือนขนย้ายแตงโมลงจากรถนั่นเอง
แบบนี้ลูกค้ามากขนาดไหนก็เอาอยู่

ตอนที่ผมทำหน้าที่เป็นผู้จัดการเขต มีหน้าที่ตรวจสอบยอดขายและผลักดันสินค้าทั้ง สินค้าแฟชั่น สินค้าเก่า สินค้าใหม่ ให้เป็นไปตามเป้า ได้รับประโยชน์จากบาร์โค้ดค่อนข้างเยอะ เพราะเมื่อนำระบบการจัดการร้านมาใช้ ก็จะนำมาซึ่งตัวเลข และสถิติที่น่าสนใจมากมาย

เมื่อวันที่เราต้องการระบายสินค้าเก่าให้ออกจากคลัง เพื่อให้กิจการมีเงินสดไหลเข้า ก็สามารถทำได้ง่าย เพราะมันมีการนับอายุสินค้าทุกตัวตั้งแต่เริ่มรับเข้าจนถึงวันที่ปัจจุบัน ทีนี้ตัวไหนเก่าก็รู้ทันที

การจัดซื้อสินค้าก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เพราะไม่ได้ใช้ความรู้สึก
เพราะระบบสามารถคำนวณให้ว่าสินค้าตัวไหนถึงวาระต้องสั่งเพิ่มโดยวิเคราะห์จากสถิติการขายออก

เจ้าของกิจการที่มีหลายสาขาก็อุ่นใจขึ้นเพราะไม่ต้องมานั่งสั่งของเอง แค่สั่งงานให้เด็กที่ร้านเติมของและตั้งงบประมาณการสั่งแต่ละรอบไว้ อะไร อะไรมันก็ง่ายขึ้น

เป็นเช่นไรบ้างครับ
คงได้แนวคิดการทำ Kaizen แบบง่าย ๆ
โดยใช้ระบบเข้ามาช่วยโดยลงทุนไม่สูงเลย

ผมเองก็ทำงานเกี่ยวกับอุปกรณ์ไอทีมาทั้งชีวิต ต้องบอกกันตรง ๆ ว่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบเน็ตเวิร์ค อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเครื่องคิดเงิน ณ จุดขาย(POS) นั้น ราคาโคตรถูกและมันไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไปแล้ว

เราต่างรู้ดีว่าการมีระบบบริหารจัดการที่ดีจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างต่อเนื่อง เพราะท้ายสุดแล้วเมื่อต้นทางดีก็จะส่งผลไปยังปลายทาง คือ ลูกค้า(ผู้ชี้ขาดอนาคตธุรกิจเรา)

เกือบลืมไปครับ วันนี้ต้องรีบใช้ระบบเข้ามาช่วยหน่อยนะ
การที่เราขายของดีขึ้น ก็จะมีพันธมิตรมากขึ้น
หลายท่านก็ทำระบบแฟรนไชส์เป็นของตัวเอง มีหลายสาขาต้องดูแล หากเป็นไปได้ก็อยากโกอินเตอร์ ส่งไปขายทั่วโลก

เมื่อวันนั้นมาถึง ยังไงซะสินค้าของคุณต้อง “ติดบาร์โค้ด”
เตรียมพร้อมตั้งแต่วันนี้เลยครับ

ขอบคุณครับ

ธนบรรณ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *