วางคนให้ถูกกับงาน

Put the right man on the right job,yes.
(วางคนที่ใช่ใส่งานที่เหมาะสม
อ๋อ…ใช่ ใครก็รู้น่า)

But what if the man who is in a position
to put the right man on the right job
is the wrong man himself !!
(แล้วถ้าวันดีคืนดี เจ้าคนที่จะมานั่งวางคน
กลับกลายเป็นที่ไม่ใช่หรือไม่ได้เรื่องซะเองล่ะ ?)

ปวดหัวตึ๊บ ๆ นิดหน่อยถึงปานกลางใช่มั้ยครับ ?

หัวหน้าก็ต้องหมั่นวิเคราะห์ตัวเองบ่อย ๆ หน่อยนะว่า
ตัวเองมีคุณสมบัติพร้อมแล้วหรือยัง

แต่วันนี้เนื่องจากมีสมาชิกเพจท่านนึง
inbox เข้ามาว่าอยากให้คุยเรื่อง
#วางคนให้ถูกกับงาน

ก็เลยมาเล่าสู่กันฟังสักหน่อย
ด้วยประสบการณ์ที่ผมพอจะมี
ในมุมของเคยเป็นลูกน้องเสี่ยโรงงานเสื้อผ้ามาก่อน
เคยเป็นลูกน้องเสี่ยร้านคอมพิวเตอร์มือสองมาก่อน
เคยเป็นเจ้าของกิจการมาก่อน
ตอนนี้ปรับโครงสร้างกิจการใหม่มาเป็นหุ้นส่วน
บริษัทที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในพ.ศ.หน้า
ตอนนี้รับบทบาท HR Manager

ก็ขอแชร์ประสบการณ์ในมุมที่ผมเคยผ่านมาก็แล้วกันครับ

หัวข้อข้างบนนี่ยังมีต่ออีกนะว่า
in the right place at the right time.
สรุปคือ Put the right man on the right job
in the right place at the right time.

#วางคนที่ใช่ให้ถูกกับงานและถูกที่ถูกเวลา
หากทำได้ดังนี้ ชีวีมีสุขทั้งคนทั้งบริษัท
แต่ถ้ายังทำไม่ได้ก็เริ่มแก้ไขกันซะ
รับรองว่าไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายเกินไปนะเออ

คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเลือกคนได้เหมาะสมกับงาน
หากวันนี้ยังไม่รู้จักดีเลยว่าลูกน้องในสังกัดเป็นคน
แบบไหน ?

เช่น นิสัยใจคอ บุคลิกภาพ ความรู้ ความสามารถ
ทักษะที่มีและศักยภาพเป็นอย่างไร

ศาสตร์การอ่านคน วิเคราะห์คนนั้นที่ทั้งสายตะวันตก
และตะวันออก เช่น

– DISC แบ่ง คนเป็น 4 แบบ คือ dominance, influence,
stediness และ compliance
– Celtic Wheel (กงล้อ 4 ทิศ) คือ กระทิง,หนู,หมีและเหยี่ยว

รวมถึงการวิเคราะห์คนด้วยหลักเบญจธาตุ
คือ ธาตุไฟ,น้ำ,ไม้,ทองและดินที่ผู้เขียนเอง
ก็เพิ่งเรียนสำเร็จมา เอาไว้ใช้ในองค์กร
ซึ่งจำแนกคนออกเป็น 15 ประเภทด้วยกัน

เมื่อเราใช้หลักการในการดังข้างต้น
ก็จะทำให้เราเริ่มเข้าใจลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานอื่น
ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าเราอีกทีก็เช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตาม
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ บริษัทหรือองค์กร ห้างร้าน
ก็ไม่ได้มีเครื่องมือวิเคราะห์คนเช่นนี้ไว้ใช้
ก็ไม่ต้องซีเรียส วิตกกังวลเกินไป
หันมาดูเรื่องใกล้ตัวให้มาก

รศ.สุขุม นวลสกุลเคยเขียนบทความไว้และมีคลิป
ใน Youtube เล่าถึงหัวหน้างานต้อง
“รู้กว้างและรู้ลึก” จึงจะสั่งงานได้ผลสัมฤทธิ์

เช่น ภาพกว้างของนาย A ดูสุขุม ลุ่มลึก ใจเย็น
แต่งตัวดี มีมนุษยสัมพันธ์ จึงโดนมอบหมายให้
ไปอยู่ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล

แต่ภาพลึกของนาย A กลับเป็นคนใจร้อน
ชอบโพสความคิดเห็นเชิงลบในเฟซบุ๊ค
และห้องไลน์อยู่เสมอ แบบนี้ไม่โอเคครับ

นางสาว B เป็นคนมีความรู้ การศึกษาดี
เรียนจบถึงขั้นเกียรตินิยมสาขาการเงิน
จึงได้รับมอบหมายให้ดูแลงานการเงิน
โครงการใหญ่ ๆ หลายงาน

ภาพลึกของนางสาว B เป็นคนที่ชอบสังสรรค์
ติดการพนันบอล รสนิยมค่อนข้างสูง
ดูจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและอาหารการกิน
แบบนี้ เป็นไปได้ว่าอาจมีปัญหาเรื่องการเงิน
สุ่มเสี่ยงต่อการก่อทุจริตในอนาคต

นาย C มาสมัครเป็นพนักงานขับรถให้ผู้บริหาร
ด้วยภาพกว้างคือขับรถเป็น สุภาพเรียบร้อย
ไม่เคยมีประวัติเฉี่ยวชนมาก่อน

ภาพลึกของนาย C คือ บ้านอยู่ไกลจากบริษัท
เป็นระยะทาง 30 กม. และยังมีลูกน้อยกำลังเรียนอนุบาล
นั่นแสดงว่าหากจะเรียกใช้ให้มาทำงานขับรถให้
ตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนเริ่มงาน อาจจะมีปัญหาได้

ในชีวิตการทำงานประจำวันเช่นกันครับ
เราต้องใช้คนให้ถูกกับงานโดยอาศัยภาพลึกของเขา

#คนที่ใจร้อน ตัดสินใจเร็ว ชอบเสี่ยง
ย่อมเหมาะกับงานขายหรืองานแนวกองหน้า
หากจะให้มานั่งจดบันทึกการประชุม
อยู่ในห้องแอร์ กรอบสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ทั้งวัน
เขาคงไม่สนุกกับงาน และผลลัพธ์ออกมามาดี

#คนที่ใจเย็น สุขุม ชอบช่วยเหลือคน
ย่อมเหมาะกับงานเบื้องหลัง งานสนับสนุนต่าง ๆ
หากจะให้ไปเจรจาต่อรองกับคู่ค้า
หรือออกไปหายอดขายให้สำเร็จตามเป้าระยะสั้นคงลำบาก
แถมยังฝืนใจ ทำไปก็ไม่ค่อยได้ดี

#คนที่เป็นนักคิด นักสร้างสรรค์
ย่อมเหมาะกับงานครีเอทีฟ คิดนวัตกรรม
พัฒนางานเดิมให้ดี และจากดีเป็นดีเลิศ
ในหัวมีแต่เรื่อง Kaizen
หากจะให้นั่งทำงาน Routine ทำอะไรซ้ำซาก
บอกได้เลยคนพวกนี้เฉาตายครับ

#คนที่เป็นนักวางแผน ต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเลข
เขาหมกมุ่นได้ทั้งวันโดยไม่ต้องพบปะคน
หากจะให้ไปติดต่องานข้างนอก
ออกไปพบปะ สังสรรค์กับเหล่าซัพพลายเออร์
บอกตรง ๆ มันฝืนอ่ะ

#คนที่เป็นนักประชาสัมพันธ์
พวกนี้คุยได้ทั้งวันเพราะรู้กว้าง
แต่รู้ลึกนั้นไม่เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่
ไม่ค่อยลงรายละเอียด
คนพวกนี้เก่งการนำเสนอ แต่อย่าให้ไปวางแผน
หรือคิดงานโครงการใหญ่ ๆ เชียวเพราะไม่จัดจ้านเลย

โอ้โห… มันเยอะแยะไปหมด
เล่นจนขนาดผมต้องพิมพ์จนเมื่อยนิ้ว
จึงอยากฝากหัวหน้าทุกคนศึกษาภาพลึกของ
ลูกน้องหรือเพื่อนร่วมงานให้รู้จริง
แล้วการทำงานร่วมกันจะเป็นเรื่องสนุก

ก็เอาง่าย ๆ สไตล์ชาวบ้านละกัน
วันนี้คุณบอกให้กองหน้าลงไปรักษาประตู
และให้กองหลังไปเป็นกองหน้า
ผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างไร ?
แค่คิดก็มันส์แล้ว วู้ว !!!

ขอบคุณครับ

ธนบรรณ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *