#ระยะทางพิสูจน์ม้า_กาลเวลาพิสูจน์คน
#คนที่ทำงานแบบไม่มีเส้นตาย คือคนที่กำลัง
ขีดเส้นตายให้ตัวเองโดยไม่รู้ตัว นอกจากนั้น
ยังสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับ
เพื่อนร่วมงานแบบไม่รู้จบ เพราะคาดหวังอะไร
แทบไม่ได้เลยสักเรื่อง
ผมเคยเป็นคนขี้เกียจมาก่อน ถึงตอนนี้จะดีขึ้นมาก
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า สมัยที่เรียนไม่จบสักปริญญา
นั้นก็เพราะผัดวันประกันพรุ่งในการอ่านหนังสือ
และฝึกทำแบบฝึกหัด เลื่อนไปเลื่ิอนมาก็ส่งผลเสีย
ให้ชีวิตทันที เพราะสอบตกเป็นประจำ
ถ้าพูดแบบกว้าง ๆ ให้ลองดูผู้คนที่จัดว่าเป็นคนอ้วน
นั่นเพราะไม่ยอมปรับพฤติกรรมในการบริโภค
และจัดเวลาให้การออกกำลังกายบ้าง
คุณคงเคยเห็นคนที่เล่นกีต้าร์ได้ไม่กี่คอร์ด
ผ่านไปห้าปีสิบปีก็ยังมีทักษะเท่าเดิมคือเล่นเพลงยาก
ไม่ได้แถมยังเล่นไม่จบสักเพลง ซึ่งสาเหตุนั้นจาก
การไม่มีวินัยในการซ้อม ผัดวันไปเรื่อยจนชิน
วกมาเรื่องงานบ้าง เพราะเราคงหนีมันไม่พ้น
ตราบใดที่หัวใจยังเต้นและกระเพาะยังทำงานปกติ
หากมัวแต่เหลวไหลไปเรื่อย ทำงานแบบไม่มีเส้นตาย
หรือกำหนดกรอบเวลาที่แน่นอน แล้วความสำเร็จ
มันจะมาเยือนได้อย่างไร
รู้มั้ยหากเราหักพฤติกรรมเหล่านี้ได้
กราฟชีวิตจะผงกหัวเชิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
1. เลิกเป็นพวกเสพติดความสมบูรณ์แบบ
ให้ลงมือทำไปเหอะ เดี๋ยววันที่งานมันเดินก็จะเริ่ม
เป็นรูปเป็นร่างเอง
2. อย่ากลัวความล้มเหลวมากจนขาหมดแรง
พอกลัวมากเข้าก็ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง
จนเข้าตาจน งานไม่เสร็จทันเวลาที่กำหนด
3. หยุดเป็นคนประเภทที่ต้องรอคนอื่นมาให้กำลังใจ
ทั้งที่ของแบบนี้มันสร้างเองได้ แถมสร้างได้ไม่มี
วันหมดด้วย ลองดูสิครับ
4. อะไรที่กลัว ให้ทำมันสองครั้ง … จริงครับ
ถ้าคุณทำมันได้แบบนี้นอกจากได้งานแล้วนะ
คุณได้ตัวตนคนใหม่ของตัวเองเวอร์ชันที่ไม่เคย
ได้มาก่อน พร้อมลุยทุกเรื่อง สนุกดีออก
ที่เล่ามาไม่ใช่เคล็ดลับนะครับ
ผมแค่มาแชร์จากประสบการณ์อันน้อยนิด
วันนี้ถ้าหงุดหงิดกับคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง
ก็แชร์ไปให้เขาอ่านได้เลย
พิมพ์ไปชักเหนื่อยครับ ขอบคุณที่รับอ่านรับฟัง
หากอยากร่วมแสดงความคิดเห็นก็ยินดีครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์
ถูกใจ ไลค์ คอมเมนต์
แชร์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ