แมวตัวน้อยนอนจมความเศร้าโศกพร้อมศพของแม่
ช่างเป็นภาพที่สะเทือนใจและเรียกน้ำตายิ่งนัก
มันไม่รู้เลยว่า แม่แมวจากไปอย่างไม่มีวันกลับแล้ว
ในชีวิตของคนเราล้วนต้องก้าวผ่านจุดนี้ให้จงได้
ไม่ว่ามันจะยากลำบากเพียงใดก็ตามครับ
เขาบอกว่าเวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง
แต่เวลามันไม่ได้ทำให้คุณลืมสิ่งนั้นไปหรอกนะครับ
คุณลองจินตนาการดูสิว่า เมื่อถึงคราวที่คุณต้อง
พรากจากสิ่งที่เป็นที่รักไปนั้น คุณลืมมันได้จริงหรือ?
แต่เวลาให้บทเรียนว่า คุณจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ
ความรู้สึกนี้อย่างไร เมื่อคุณเข้าใจมากขึ้น
คุณก็จะเจ็บน้อยลงจนถึงขั้นไม่เจ็บเลย
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ยังมีคนที่เศร้าใจ
ไม่สามารถก้าวผ่านชีวิตในอดีตได้โดยง่าย
พอจะเดินหน้าทีไรเป็นต้องโดนความเจ็บปวด
รั้งไว้ทุกที ซึ่งคนเหล่านี้อาจอยู่ข้างตัวคุณหรือ
เป็นเพื่อนที่อยู่ห่างแต่ระบายผ่านโซเชียลให้ฟัง
สิ่งที่ต้องทำคือเป็นกำลังใจให้กันเสมอ
ช่วงที่สูญเสียนั้นอาจจะเป็นช่วงสั้นที่หนักหนา
แต่หากผ่านมรสุมช่วงนี้ได้ก็จะรู้สึกดีขึ้นเท่าตัว
ผมชื่นชอบข้อคิดของคุณดังตฤณที่กล่าวว่า
======
• ธรรมชาติจะบังคับให้เราทิ้งทุกคนไปอยู่ดี
ไม่ว่าเราจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม
พวกเราต่างก็เป็นนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว
มาสวมหัวโขน
เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง คนรัก เพื่อน ศัตรู
หรืออะไรอื่นเดี๋ยวเดียว
แล้วก็ต้องตายจากไปเป็นอื่น
เราต่างถูกหลอก
ว่ามีคนรักและเครือข่ายญาติมิตร
ทั้งที่จริงทุกคน
ไม่มีแม้แต่เงาติดตามตัวเองไปได้ตลอด
======
ผู้บริหารที่เข้าใจเรื่องนี้จะเข้าใจลูกน้อง
เพื่อนที่เข้าใจเรื่องนี้จะได้ใจเพื่อนในระดับสูงขึ้น
เด็กที่เข้าใจเรื่องนี้จะมีภูมิต้านทานชีวิตที่ดี
และมีเมตตาจิต
และท่านที่เข้าใจเรื่องนี้ “#คุณคือคนดี” ครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์
ถูกใจ ไลค์ คอมเมนต์
แชร์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ
ภาพจาก Google