ถ้าเก่งผมเป็นลูกพี่ไปนานแล้ว

#ลูกน้องนะครับ…ถ้าเก่งผมเป็นลูกพี่ไปนานแล้ว
ลูกน่ะ…ต้องมีพ่อแม่คอยดูแลจนปีกกล้าขาแข็ง
จึงค่อยปล่อยไปเผชิญโลกที่แสนหฤโหด
น้องน่ะ…ต้องมีพี่เลี้ยงคอยค้ำจุน​ ไม่งั้นสะดุดที
ลุกไม่ขึ้น​ ไปไม่เป็น

พอมันรวมกันเป็นคำว่า​ “#ลูกน้อง” ปุ๊บ
เลยอยากให้ลูกพี่ทำความเข้าใจและเห็นใจหน่อย
เพราะมันคือการลงเรือลำเดียวกัน
ไม่ว่าจะยังไงต้องประคองให้ถึงฝั่งพร้อมกัน

พูดแบบตรง​ ๆ​ คนที่เป็นหัวหน้าวันนี้
ล้วนเคยเป็นลูกน้องมาก่อน​ ยกเว้นลูกท่านหลานเธอ
ที่เอาเส้นสายมาเบิกทาง​ หรือรวมไปถึงบรรดา
หัวหน้าที่ใช้เต้าไต่ทั้งหลายแหล่

คุณจำวันที่มืดมนอุราได้มั้ย? วันนั้นคิดอะไรไม่ออก
ต้องพึ่งหัวหน้า​ ถ้าหัวหน้ายื่นมือเข้ามา​ ช่างสุขใจ

วันที่มีปัญหาส่วนตัว​ แค่หัวหน้ามีเมตตาจิต
ถามไถ่สารทุกข์ดิบสุกบ้าง​ ลูกน้องก็ระรื่นแล้ว

ลูกน้องหรือหัวหน้ามันก็ลูกน้องเขาเหมือนกันแหล่ะ
แค่หัวโขนใหญ่กว่าแต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ใต้บังคับ
บัญชาของผู้มีตำแหน่งสูงกว่าอยู่ดีนั่นแล

บทความนี้ผมอยากฝากความในใจถึงหัวหน้า
คุณคือฑูตแห่งความสุขขององค์กรโดยแท้
คุณคือเบื้องหลังความสำเร็จของลูกน้อง
คุณคือคนที่ลูกน้องฝากความหวัง
คุณคือพระเอกของทุกสิ่ง​ ไม่ใช่แค่ตัวประกอบ
คุณคือต้นแบบที่เขาจะแอบโคลนนิ่ง

วันที่ลูกน้องเติบโต​ คือวันที่หัวหน้าสบาย
เพราะเขาทำงานแทนเราได้และความผิดพลาด
น้อยลง​ ลูกน้องก็สบายใจเพราะไม่เคว้งคว้าง
เมื่อถึงเวลาประเมินผลก็แอ่นอกรับอย่างภาคภูมิ

วันนึงที่คุณเกษียณอายุ​งานแล้ว
อยากได้อ้อมกอดที่อบอุ่นของลูกน้อง
อยากได้ข้อความอวยพรวันเกิดจากลูกน้อง
อยากได้รอยยิ้มจริงใจจากลูกน้อง
หรือ?
ได้คำนินทา
ได้รอยยิ้มแบบแหย​ ๆ​ แถมมองบน
หัวหน้าต้องเลือกแล้วล่ะ

เก่งคน​ เก่งงาน​ มันวัดผลได้
อย่าแค่เก่งเพียงในโลกส่วนตัวหรือกะลาตัวเอง
อีแบบนี้มันของปลอม​ เป็นหัวหน้าใครไม่ได้หรอก
ถึงได้งาน​ ได้ตำแหน่ง​ แต่ไม่ได้ใจใครสักคน
วังเวงเนอะ….

หวังว่าจะเป็นประโยชน์
ถูกใจ​ ไลค์​ คอมเมนต์
แชร์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

ขอบคุณครับ
ธนบรรณ​ สัมมาชีพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *