คนทำงานเร็วคิดว่าเป็น #ความผิดของเรา
คนทำงานช้าโทษว่าเป็น #ความผิดของสิ่งอื่น
คุณอาจรู้ดีอยู่แล้วว่าการกล่าวโทษว่าสิ่งแวดล้อม
เป็นต้นเหตุแห่งความโชคร้ายหรือความไม่น่าพอใจ
ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น
คนทำงานช้าโยนความผิดไปให้นายบ้าง บริษัทบ้าง
ประเทศบ้างจึงไม่สามารถพาตัวเองออกไปจาก
สภาพการณ์อันเสียเปรียบได้ ปล่อยให้สิ่งแวดล้อม
รอบตัวชักจูง ผลงานเลยได้อยู่เท่านั้นแหล่ะครับ
แต่คนทำงานเร็วจะพยายามปรับตัวให้เข้ากับ
สภาพแวดล้อม ไม่อย่างนั้นก็เปลี่ยนสภาพแวดล้อม
และสร้างผลสำเร็จในงาน
ถ้าว่างพอจะคร่ำครวญเรื่องสภาพแวดล้อม
ก็จงคิดหาทางแก้ไขซะ สิ่งสำคัญคือ คุณสามารถ
ตระหนักถึงความรับผิดชอบของตัวเองอย่าง
แรงกล้าได้หรือไม่ว่า “สาเหตุที่สถานการณ์เป็น
อย่างนี้ก็เพราะเราเอง เพราะฉะนั้นเราต้องเป็นคน
ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยความตั้งใจและความพยายาม
ของตัวเอง”
ถ้า “เป็นความผิดของคนอื่น” เราก็ไม่สามารถ
ควบคุมสิ่งใดได้ เพราะอะไร เพราะเรากำลังบอกว่า
ที่ตัวเองไม่มีผลงาน เงินเดือนไม่ขึ้น และอะไรต่อ
มิอะไร ไม่ได้มีสาเหตุมาจากตัวเองเลย
แต่ถ้าคิดได้ว่า” นี่เป็นความผิดของตัวเอง” ต่อไปก็
อยู่ที่การปรับเปลี่ยนหรือลงมือทำด้วยตัวเองแล้ว
และนี่ก็เป็นเพียงวิธีการเดียวที่จะพลิกสถานการณ์
ที่เราประสบอยู่ได้
เวลาเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่ดี คนทำงานเร็ว
กับคนทำงานช้ามีท่าทีที่แตกต่างกันตั้งแต่คำพูดแล้ว
คนทำงานเร็วจะพูดว่า “เอาละ หาทางแก้ปัญหา
ดีกว่า” โดยไม่รอช้า แต่คนทำงานช้าจะพูดว่า
“อะไรกันเนี่ย ใครเป็นต้นเหตุ”
#คนรวยที่ทำงานเร็วจะลงมือทำก่อนแก้ตัว
======
บทความจากหนังสือ #คนรวยทำงานเร็ว
โกะโด โทคิโอะ เขียน/กิษรา รัตนาภิรัต คุโด แปล
======
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ