ทำกิจการบริหารแบบครอบครัว
บ้านเราเรียกว่า”#กงสี”
ผมขอเน้นให้อ่านเยอะ ๆ หน่อย
คุณต้องเคลียร์ปัญหานี้ก่อน
ค่อยคิดขยับขยาย ขายแฟรนไชส์ออกไป
เมื่อไม่กี่วันมานี้
คงได้ดูข่าวก๋วยเตี๋ยวชื่อดังที่สืบทอดกันมา
ร่วม 70 ปีได้ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
ทุกอย่างเหมือนจะดูดี จนมันมีปัญหาเรื่องเงินทองขึ้นมา
ผมไม่เอ่ยชื่อว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวอะไร
เชื่อหรือไม่ว่าสร้างทรัพย์สินระดับพันล้าน
แต่ด้วยการบริหารแบบกงสี
ไม่สามารถเคลียร์เรื่องเงินทองได้ชัดเจน
เงินทองดังกล่าวก็ทำให้พี่น้องต้องแตกคอกัน
จนต้องให้คุณตำรวจช่วยแก้ปมปัญหา
ทุกท่านครับ
ก่อนขายแฟรนไชส์อะไรออกไปต้องชัดเจน
เรื่องของรายรับรายจ่าย
หากไม่มีความรู้เรื่องบัญชีก็ไปลงเรียนซะ
ไม่ว่าหลักสูตรสั้น ยาวได้ทั้งนั้น
ไม่ใช่จ้างเขาทำซะหมด
ส่วนตัวเองไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไร
อีแบบนี้จะบริหารธุรกิจได้อย่างไร
เมื่อมีความรู้เรื่องบัญชีมันก็ง่ายขึ้น
เวลามีการลงทุน ลงหุ้นเพิ่ม
จะปันผลใคร เท่าไหร่ อย่างไรมันก็โปร่งใส
แต่ถ้ายังหมกเม็ดไปเรื่อย ๆ
สักวันปัญหาก็เหมือนฟองสบู่แตกโป๊ะ!
เอาล่ะ…เมื่อระบบบัญชีแน่นขึ้น
ก็สบายละ ลงรายรับ รายจ่ายให้ครบ
สิ้นเดือนก็ปิดงบกำไรขาดทุน
กำไรที่ได้จะใช้ทำอะไรก็ตกลงร่วมกันซะ
หากขาดทุนก็ประชุมกันหน่อย
ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร
ไม่ใช่มัวแต่โทษกันไป โทษกันมา
เมื่อกางตัวเลขทางบัญชี
ทุกอย่างต้องอธิบายหุ้นส่วนทุกคนได้จริง
ทำได้ดังนี้ก็เริ่มขยายแฟรนไชส์ไปพร้อม ๆ กันได้
เชื่อมั้ยครับ…ผู้ซื้อแฟรนไชส์ของเรา
ก็จะเป็นลักษณะคล้าย ๆ กันนี่แหล่ะ
ส่วนมากจะบริหารแบบกงสีกัน
คือเชื่อใจคนในครอบครัว จนข้ามขั้นตอนตรวจสอบ
พอผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็ขึ้นโรงขึ้นศาล
นอกจากจะเสียเงิน เสียทอง เสียเวลาแล้ว
มันยังเสียความน่าเชื่อถือจากลูกค้าด้วย
ผมอ่านข่าวก๋วยเตี๋ยวศึกสายเลือดพันล้านแล้ว
ก็ยังไม่รู้เหตุการณ์จะสรุปออกมารูปไหน
ขอให้ลงตัวกันทุกฝ่ายก็แล้วกัน
เพราะผู้บริโภคอย่างผม
ก็ยังถวิลหาก๋วยเตี๋ยวรสชาติดี…อยู่ร่ำไป
ขอบคุณครับ
ธนบรรณ สัมมาชีพ