ลองนึกภาพตัวเองสนใจอยากซื้อแฟรนไชส์
ร้านอาหารไทยแล้วมีผู้มาเสนอ 2 เจ้าด้วยกัน
ข้อเสนอช่วงโปรโมชั่นคือฟรีค่าแฟรนไชส์
แรกเข้า 1 ปี
อายุของแฟรนไชส์ทั้งคู่คือเปิดมา 2 ปีพร้อมกัน
เจ้าแรกแฟรนไชส์ “ไทยฟู๊ดกู๊ดวิว”
มีสาขาอยู่ 7 สาขากับแฟรนไชส์
“อาหารไทยไลค์รัวๆ”มีสาขาอยู่ 30 สาขา
ดูเผิน ๆ แล้วตัวไหนน่าลงทุนด้วยครับ?
เอาล่ะ จากข้อมูลประกอบการตัดสินใจเท่าที่มี
ได้ผลดังนี้
#วิเคราะห์เชิงปริมาณ
“อาหารไทยไลค์รัวๆ” มีจำนวนสาขา 30สาขา
เยอะกว่า “ไทยฟู๊ดกู๊ดวิว” ที่มีจำนวนสาขาแค่
7 สาขา อยู่ถึง 23 สาขา
จำนวนที่ดูเยอะกว่า สามารถบ่งบอกถึงความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง
#วิเคราะห์เชิงคุณภาพ
สาขาทั้งหมดของ “อาหารไทยไลค์รัวๆ” จำนวน 30 สาขานั้นกระจุกกันอยู่ใน 6 จังหวัดในภาคอีสานตอนล่าง คือ ร้อยเอ็ด,มหาสารคาม,ยโสธร,ศรีสะเกษ อุบลราชธานี,สุรินทร์ โดยตั้งอยู่ในระดับต่างอำเภอเล็กบ้าง ใหญ่บ้างรวม 25 สาขาด้วยกัน ที่เหลือมีสาขาในอ.เมือง 5 สาขา
ส่วน “ไทยฟู๊ดกู๊ดวิว” มีแค่ 7 สาขา แต่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ คือ บนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เขตปริมณฑล 2 สาขา , อยู่ภาคอีสาน 2 สาขาอยู่ภาคใต้ 1 สาขา , อยู่ภาคเหนือ 1 สาขาและสาขาใหญ่สุดอยู่ที่กทม. จำนวน 1 สาขา
การวิเคราะห์เชิงปริมาณ ทำให้เห็นว่าจำนวนสาขาของแฟรนไชส์สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้สนใจลงทุนได้ในระดับดีเยี่ยมว่ามีระบบรองรับการทำงานเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่
การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ ช่วยเสริมว่าถ้ามีข้อมูลนำเสนอแนบไว้ว่าจำนวนสาขาที่กล่าวมานั้นมีกระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศไทยต่างทำเล ต่างภูมิประเทศ ต่างวัฒนธรรม ความต่างเหล่านี้จะช่วยยืนยันความสำเร็จของแฟรนไชส์เพราะเนื่องจากได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่ารบชนะทุกสมรภูมิ โดนใจผู้บริโภคหลากท้องถิ่น
สำหรับแฟรนไชส์ซีหรือผู้สนใจลงทุนกับเรา การวิเคราะห์ข้อมูลแบบผสมผสานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก่อนการลงทุนจึงจำเป็นมาก
แฟรนไชส์ซอร์ที่เริ่มต้นใหม่ อาจเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ เงินทุนไม่มากการชนะในสนามเล็กๆ บ่อยครั้งจึงสำคัญ มันช่วยสร้างขวัญและกำลังใจ เมื่อต้องลงแข่งในสนามที่ใหญ่ขึ้นเป็นลำดับ ก็จะฮึกเหิมพร้อมฝ่าฟันอุปสรรคใหม่ ๆ อยู่เสมอ
เมื่อเราเห็นแล้วว่าการขยายสาขาแฟรนไชส์ควรได้ทั้งปริมาณและคุณภาพ
ถึงเวลาต้องเดินหมากตัวต่อไปแล้วครับ